วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554
โลตัส..ตลาด กับวิถีชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไปของคนด่านซ้าย
วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วิ่งทดสอบสมรรถภาพ 2.4 กม.
หลังจากวิ่งเสร็จต้องมารายงานตัว พร้อมแจ้งเวลาของการวิ่ง เพื่อลงบันทึกและประเมินสมรรถนะร่างกายว่าอยู่ในระดับไหน ใครที่ได้ตั้งแต่ระดับดี ขึ้นไปก็เตรียมลุ้นเลือกเก้าอี้กันได้ ส่วนใครที่ขั้นเทพวิ่งทำเวลาได้ระดับดีเยี่ยม ก็เตรียมตัวรับ 500 บาทได้เลย..
วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ผู้หญิงคนนี้ชื่อ “ เอ๋ “
วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เมื่อเด็กไทย “ท้องในวัยเรียน” สังคมไทย จะเป็นเช่นไร !!!
๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓
สถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนในสังคมไทยยุคปัจจุบัน ได้ทวีความรุนแรงสูงมากขึ้นเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการมีทัศนคติและพฤติกรรมเบี่ยงเบน เหินห่างศาสนามีค่านิยมแบบบริโภคนิยมอย่างฟุ่มเฟือย การทะเลาะวิวาท ติดยาเสพติด การเสพสื่อลามกอนาจาร ติดเกม ฯลฯ ซึ่งปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และขาดความรู้ความเข้าใจในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ที่มีแนวโน้มรุนแรงและหนักหน่วงจนน่าตกใจ ซึ่งปัจจัยหนึ่งมาจากการแพร่ระบาดของสื่อที่ไม่เหมาะสมหรือลามกอนาจารผ่านทางสื่อแต่ละประเภท จนทำให้เด็กและเยาวชนไทยซึ่งขาดภูมิคุ้มกันในการบริโภคสื่อ มีการเลียนแบบพฤติกรรมและนำไปสู่ปัญหาดังกล่าว
ปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
ย่อมปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจัยหนึ่ง มาจากความไม่สมดุลของครอบครัว เนื่องจากครอบครัวจำนวนไม่น้อย ขาดความรู้ความเข้าใจ เรื่องเพศศึกษา จึงไม่สามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับบุตรหลานได้อย่างเหมาะสม สำหรับบางครอบครัวได้ผลักภาระหน้าที่การให้ความรู้ด้านเพศศึกษาไปให้แก่ครู อาจารย์ หรือผู้อื่นสอนแทน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีทัศนคติว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องน่าอับอาย ต้องปกปิดไม่สมควรพูดอย่างเปิดเผย หรือเข้าใจว่าการสอนเรื่องเพศศึกษาให้แก่ลูกหลานในครอบครัวอาจเป็นดาบสองคม นอกจากนั้น การไม่มีเวลาดูแลพูดคุยให้คำแนะนำปรึกษากับลูกหลาน เพราะห่วงเรื่องเศรษฐกิจและการประกอบอาชีพเป็นหลัก
(งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การให้ความรู้หรือคำแนะนำที่ถูกต้องเรื่องเพศศึกษานั้น ผู้ปกครองในครอบครัวสามารถให้ความรู้กับลูกหลานได้ใกล้ชิดกว่าคนอื่น และเด็กจะเชื่อฟังมากกว่า
เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรหรือยังไม่พร้อมนั้น ปัญหาในส่วนอื่นๆ ย่อมตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเสียอนาคตที่ดีในชีวิตของทั้งฝ่ายชายและหญิง ปัญหาครอบครัวแตกแยก ปัญหาการทำแท้ง การเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การเลี้ยงลูกที่ไม่ถูกวิธีเพราะตัวพ่อแม่เด็กเอง ไม่มีวุฒิภาวะในการอบรมเลี้ยงดู การทอดทิ้งลูกให้เป็นลูกกำพร้า ซึ่งเด็กที่ถูกทอดทิ้งเหล่านั้น ล้วนมีความเปราะบางทางสภาพติดใจ และอาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมที่ไม่สามารถคลายปมให้หลุดได้
"จากผลการศึกษาสถิติด้านสาธารณสุขพบว่า ในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๕๒ วัยรุ่นมีการตั้งครรภ์ก่อนวัย เพิ่มขึ้นจาก ๑๐% มาเป็น ๔๐% และจากการสำรวจ ในช่วง ๗ ปี ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๓-๒๕๕๐ พบว่า ช่วงอายุการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร มีแนวโน้มลดลงด้วย โดยพบว่าเด็กอายุ ๑๐ ปี มีการตั้งครรภ์สูงถึง ๖๐ คน และเด็กอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี คลอดบุตรจำนวน ๕๕,๖๔๘ คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สำรวจเฉพาะในโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น"
การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของเด็กและเยาวชน ถือเป็นปัญหาใหญ่และเป็นเรื่องหนักใจของทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเด็ก และรวมถึงตัวเด็กเอง เพราะโดยปกติแล้ว "เด็กวัยรุ่นในช่วงอายุ ๑๐-๒๐ ปี ยังไม่พร้อมต่อการเป็นพ่อแม่คน ทั้งทางด้านเสถียรภาพทางการเงิน และวุฒิภาวะทางอารมณ์ ตลอดจนการดูแลรับผิดชอบหรือการอบรมเลี้ยงดู" ซึ่งนักวิชาการด้านสาธารณสุขและนักจิตวิทยาเด็กและวัยรุ่นหลายท่าน ได้นำเสนอวิธีการป้องกันไม่ให้วัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ดังนี้
๑.การให้ความรู้ กล่าวคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความรู้ในเรื่องเพศศึกษากับลูกอย่าถือเป็นเรื่องน่าอายและปกปิดไว้ ลูกอาจเรียนรู้ในห้องเรียนมาบ้าง แต่คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ใกล้ชิด และเข้าใจลูกมากกว่า จึงทำให้การสอน การพูดคุย ตลอดจนให้คำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสมได้อย่าง มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งวิธีการเริ่มต้นที่ดีและง่ายที่สุด คือ "คุณพ่อคุณแม่ควรหาจังหวะเวลาที่เหมาะสม ชักชวนลูกพูดคุยหรือเปิดประเด็นสนทนาโดยการสอบถามลูกว่าทราบเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์และการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากน้อยขนาดไหน" เมื่อคุณพ่อคุณแม่เข้าใจและรู้ว่าลูกมีความเข้าใจอยู่ในขั้นไหนแล้วก็ให้เสริมความรู้ต่อจากที่ลูกมี บอกลูกถึงข้อพึงระวังตัว การแต่งกายและการวางตัวให้เหมาะสมกับเพศตรงข้าม รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการเปลี่ยนแปลงของสรีระร่างกาย สภาพจิตใจอันเป็นผลจากฮอร์โมนเพศและความต้องการทางเพศของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องน่าละอาย และยากต่อการพูดคุย แต่คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูกในเรื่องนี้โดยพยายามทำให้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ค่อยๆ พูดทีละเล็กทีละน้อย เพราะจะช่วยให้ลูกเกิดความเข้าใจ เชื่อและยอมรับได้มากกว่าการอธิบายทุกอย่างในครั้งเดียว อีกทั้งยังทำให้ลูกรู้สึกชินว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ อีกทั้งไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอีกด้วย
๒.การคุมกำเนิด
วิธีการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีมากมายหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และเหมาะสมแตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ "อาจหาจังหวะเวลาหรือโอกาสที่เหมาะสมให้ลูก ได้มีโอกาสสอบถามพูดคุยกับหมอหรือผู้ที่มีความรู้ในเรื่องเพศศึกษาเพื่อที่จะเข้าใจถึงลักษณะที่แตกต่างกันของการคุมกำเนิดในแต่ละวิธี เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การใช้ยาคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด หรือการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ฯลฯ"
๓.การจัดกฎระเบียบหรือกติกาภายในครอบครัว
"การดูแลให้มีผู้ใหญ่อยู่ด้วยในเวลาที่มีการจัดงานเลี้ยงภายในบ้านหรือสถานที่ต่างๆ หรือการสร้างกฎกติกาให้ลูกโทรศัพท์กลับมาหาทุกครึ่งชั่วโมง หรือในวันเรียนหนังสือไม่อนุญาต ให้กลับบ้านเกิน ๓ ทุ่ม" เป็นต้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ แม้ลูกซึ่งเป็นวัยรุ่นอาจคิดว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ เสรีภาพของเขา แต่เป็นวิธีการที่จะช่วยลดปัญหาการมีเพศสัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ได้อีกทางหนึ่ง
หลานห่างไกลจาก เป็นที่เข้าใจกันดีว่า "วัยรุ่นเป็นวัยที่เข้าใจยาก คึกคะนอง อยากลองผิดลองถูก ชอบแสดงออกความเป็นตัวของตัวเอง ต้องการอิสรเสรีในการดำเนินชีวิต และมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ดังนั้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูกหรือบุคคลในครอบครัว การประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นอย่างสม่ำเสมอ อาทิ การเอาใจใส่ดูแลซึ่งกันและกัน การแสดงความรักความเข้าใจ ห่วงหาอาทร หรือการสร้างความอบอุ่นระหว่างสมาชิกภายในครอบครัว สิ่งเหล่านี้คือ ภูมิต้านทานที่สร้างได้ภายในครอบครัว และสามารถช่วยให้ลูกปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี"
สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในส่วนของภาครัฐ ชั่วโมงนี้คงไม่ใช่ภารกิจความรับผิดชอบของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงเท่านั้น ล่าสุด นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติ อีกทั้งให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเด็กในทุกมิติ ซึ่งในการเปิดเวที “สิทธิเด็ก” ครั้งที่ ๒๐ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ณ ทำเนียบรัฐบาล นาย
เพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องได้ทำงานเชิงบูรณาการความร่วมมือจัดเวทีเสวนาเรื่อง “รักใสๆ ให้ปลอดภัยของวัยโจ๋” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดเห็นและร่วมกันหาแนวทางป้องกันปัญหาพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่น อีกทั้งเป็นการสร้างกระแสให้สังคมได้ตระหนักในปัญหาดังกล่าวแล้ว นอกจากนั้นข้อเสนอที่ได้รับจากการระดมความคิดเห็นเหล่านั้น จะนำไปพัฒนาเพื่อ เป็นแนวทางในการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป
กล่าวโดยสรุป "การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของเด็กและเยาวชน ต้องเริ่มจากตัวเด็กเองที่ต้องพยายามขัดเกลาตัวเองให้มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมตามช่วงวัย รู้จักการยับยั้งชั่งใจและมีสติในการดำเนินชีวิต พ่อแม่บุคคลในครอบครัว หรือสังคมแวดล้อมต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาและบ่มเพาะวุฒิภาวะให้แก่เด็กและเยาวชน" ในส่วนของภาครัฐ ต้องมีความจริงจังในการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสื่อลามกหรือสื่อที่ล่อแหลม ไม่เหมาะสมที่มีการเผยแพร่ผ่านทางสื่อประเภทต่างๆ รวมถึงสถานที่ล่อแหลมทางเพศ หรือสิ่งยั่วยุพฤติกรรมทางเพศ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องปราบปรามจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดโดยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่อง หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องเร่งขยายหรือเปิดพื้นที่สื่อดีให้กว้างขวางและแพร่หลายในสังคมไทยอีกทั้งเร่งปรับปรุงพัฒนากฎหมายให้ทันสมัยกับสถานการณ์ปัญหาเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ให้แก่เด็กและเยาวชน เอื้อต่อการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติไทย ต่อไป
บทความจาก http://www.oknation.net/blog/jessada5577/2010/06/17/entry-5
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ครอบครัวตัวอย่าง (ครอบครัว เบญจวรรณ ผิวเหลือง)
พี่จุ๋ม แม่จุ๋ม หรือ เบญจวรรณ ผิวเหลือง ข้าราชการ ตำแหน่งเจ้าพนักงาน เภสัชกรรมชุมชน โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย พี่จุ๋ม อารมณ์ดี และมีความสุขถึงแม้หลังเลิกงาน พี่จุ๋ม อยู่บ้านคนเดียวเนื่องจากสามี หรือ จ่าสิบเอก บัณฑิต และน้องบู๊ช ลูกชายคนโต เป็นทหารพรานประจำการอยู่ที่ จ.เลย ส่วน น้องโบส วรพจน์ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียน มหาไถ่ศึกษา จ.เลย เช่นกัน แต่ พี่จุ๋ม บอกว่า สบายดี มีหมาเป็นเพื่อนตั้ง ๒ ตัว อิอิ
ปีนี้ (๒๕๕๔) ครอบครัวของ พี่จุ๋ม ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล “ครอบครัวตัวอย่าง” จาก กรรมการพัฒนาบุคลากร HRD โดยมีครอบครัวของ พี่ตุ้ม ตำแหน่ง พนักผู้ช่วยเหลือคนไข้ งานห้องคลอด ที่ได้รับรางวัลนี้เช่นกัน
พี่บัณฑิต และ พี่จุ๋ม พบกันที่โรงพยาบาลด่านซ้าย ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ พี่บัณฑิต มาประจำการที่ด่านซ้ายและเนื่องจากผู้บังคับบัญชาได้รับบาดเจ็บจากการออกปฏิบัติงาน พี่บัณฑิต ดูแลรับส่งหัวหน้าเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆและต้องไปรับยาที่ห้องจ่ายยาทำให้ทั้งสองได้พบเจอกันและพูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น ชวนไปทานข้าวบ้างในบางโอกาส
หลังจากพุดคุยไปได้ระยะหนึ่ง พี่บัณฑิต พาหัวหน้ามาดูตัว พี่จุ๋ม โดยที่ พี่จุ๋ม ไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน และบอกหัวหน้าว่า พี่จุ๋ม คือ “คนที่ใช่” โดยที่พี่บัณฑิตได้ไปสู่ขอ พี่จุ๋ม ถึง ๓ ครั้ง ก่อนที่จะแต่งงานกัน
พี่บัณฑิต บอกว่า พี่จุ๋ม เป็นคนพูดจาไม่เพราะ โผงผาง แต่จริงใจ โดยที่ พี่จุ่ม พูดถึงว่าพี่บัณฑิต เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยนำเรื่องหนักใจเข้ามาสร้างปัญหาให้ครอบครัว
พี่จุ๋ม พูดถึงลูกชายด้วยความภาคภูมิใจว่า ไม่เสียใจที่มีลูกชายถึง ๒ คน เพราะเขาทำทุกอย่างให้ได้เหมือนลูกสาว หุงข้าว ซักผ้า ล้างจาน ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่กลับมาบ้าน และไม่เคยทำเรื่องร้อนใจมาให้พ่อกับแม่เลย
พี่บัณฑิต บอกว่าไม่รู้ว่าความสุขที่จะหาได้จากที่ไหนคงไม่มีแล้วนอกจากที่นี่
ลูกชายทั้งสองคนของ พี่จุ๋ม บอกว่า ขอบคุณและดีใจมากที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้
ครอบครัวที่อบอุ่น มีความรัก ความห่วงใย และ พร้อมที่จะเดินไปในเส้นทางที่สมบูรณ์แบบ
และครอบครัวนี้ คงเป็นครอบครัวที่น่ารักสำหรับคนทั่วไปที่พบเห็น “ครอบครัวผิวเหลือง”
วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2554
อัษฎางค์ อัครสูรย์
สุริยา เชื้อบุญมี
ผมภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิขาเทียมฯ และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายที่สอนให้ผมรู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความเสียสละ ทำให้ผู้พิการขาขาดกับมายิ้ม หัวเราะ ร่าเริง และใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เท่านี้ผมก็มีความสุขแล้วครับ
ขาเทียม...ที่ด่านซ้าย
เริ่มต้นโครงการขาเทียม
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งมูลนิธิขาเทียมฯ ด้วยวัตถุประสงค์หลัก 3 ข้อ คือ
- ทำขาเทียมให้ผู้พิการขาขาดที่ยากไร้ ด้อยโอกาส ด้วยวัสดุภายในประเทศ
- ทำขาเทียมให้โดยไม่เลือกเชื้อชาติและศาสนา
- ให้ผู้พิการขาขาดมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีอาชีพ
ช่วงแรกอาจารย์เทอดชัยและมูลนิธิขาเทียมฯ ทำงานในพื้นที่ที่มีคนขาขาดมาก บริเวณชายแดนที่มีกับระเบิด แถบจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ สระแก้ว รวมถึงการออกหน่วยทำขาเทียมเคลื่อนที่ทั่วประเทศ หลังจากการทำงานพื้นที่ชายแดนผ่านไปได้ระยะหนึ่งอาจารย์เทอดชัยมองหา “ต้นกล้า” ที่อยู่ตามโรงพยาบาลชุมชนเพื่อถ่ายทอดความรู้การทำขาเทียมให้กระจายตามพื้นที่ต่างๆ 40 แห่งทั่วประเทศ
ขาเทียมด่านซ้าย ทำตอนเช้า ได้เที่ยง
ช่วงแรกของการทำเขาเทียมที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายนั้น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ด่านซ้าย”ทำขาเทียมได้ ที่สำคัญคือชาวบ้านจะได้ขา และก็ได้จริงๆ ถึงวันนี้ทำไปแล้วมากกว่า 200ขา ทำให้สามารถแบ่งเบาภาระการทำขาเทียมของโรงพยาบาลจังหวัดเลยได้ระดับหนึ่งทีเดียว
จิตอาสา “ทำขาเทียม”
นอกจากนี้ เมื่ออาจารย์เทอดชัยมีออกหน่วยจิตอาสาจะนำเจ้าหน้าที่ 2 คนของด่านซ้ายไปด้วยซึ่งมีข้อดีคือเจ้าหน้าที่ได้ไปฟื้นฟูความรู้กับอาจารย์และเพิ่มประสบการณ์ทำขาเทียมตามภูมิภาคต่างๆ รวมถึงไปต่างประเทศ 4ครั้งคือ แขวงจำปาสักประเทศลาว รัฐซาราวัค เกาะบอร์เนียว และเมือง ปีนังประเทศมาเลเซีย และล่าสุดไปกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน
วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ครอบครับตัวอย่าง (ครอบครัว เนาวรัตน์ พรหมรักษา)
วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554
ก้าวย่างแห่งความหวัง
วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554
ประวัติและผลงานของ นาง เปรมศรี สาระทัศนานันท์
2. วัน เดือน ปี เกิด วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2501 อายุ 53 ปี
3. บัตรสมาชิกสภาการพยาบาล เลขที่ อ.1/9743 / วันที่ออกบัตร 24 ธันวาคม 2550
วันที่หมดอายุ 23 ธันวาคม 2555
4. ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ □การพยาบาล □การผดุงครรภ์ □การพยาบาลและการผดุงครรภ์
ชั้น 1 เลขที่ 4511033616วันที่ออกใบอนุญาต 24 ธันวาคม 2550
วันที่ใบอนุญาตหมดอายุ 23 ธันวาคม 2555
5. ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 316 หมู่ 1 ถนน -ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
รหัสไปรษณีย์ 42120 โทรศัพท์ 0-4289-1206 โทรศัพท์มือถือ 08-9843-4440
e-mail premsri01@ hotmail.com
6. การศึกษาและสถาบันที่สำเร็จ
6.1 วุฒิการศึกษาระดับประกาศนียบัตร
- ประกาศนียบัตร การอบรมหลักสูตรวิสัญญีพยาบาล จาก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2531
- วุฒิบัตรการอบรมหลักสูตรเฉพาะทางการบริหารการพยาบาล หลักสูตร 3 เดือน จากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2546
6.2 วุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญา
- อนุปริญญา การพยาบาลและอนามัยจาก วิทยาลัยพยาบาลสภากาชาดไทย เมื่อ พ.ศ.2523
6.3 วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี
- ปริญญา พยาบาลศาสตร์บัณฑิต จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525
7 เกียรติประวัติการปฏิบัติงาน (เช่น รางวัล วุฒิบัตรชมเชยที่ได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฯลฯ)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- วันที่ 5 ธันวาคม 2550 ได้รับเหรียญจักรพรรดิมาลา(ร.จ.พ.)
- วันที่ 5 ธันวาคม 2545ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
- วันที่ 5 ธันวาคม 2543ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย(ท.ม.)
- วันที่ 5 ธันวาคม 2537 ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตราภรณ์ช้างเผือก(ต.ช.)
- วันที่ 5 ธันวาคม 2533 ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตราภรณ์มงกุฎไทย(ต.ม.)
- วันที่ 5 ธันวาคม 2531 ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก(จ.ช.)
วุฒิบัตรชมเชยที่ได้รับ
- ส่วนตัว
1. ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติและโล่ห์ ศิษย์เก่าที่ได้รับการสรรหาเป็นศิษย์เก่าดีเด่นของสมาคมศิษย์เก่าพยาบาล สภากาชาดไทย ประจำปี 2548
2. ได้รับคัดเลือกจากกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชให้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศ ฝรั่งเศส โมนาโคและอิตาลี พ.ศ. 2546
3. เกียรติบัตร ครอบครัวตัวอย่าง จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย พ.ศ. 2538
4. ได้รับพระราชทานเหรียญราชการชายแดนเมื่อวันที่ 20พฤศจิกายน พ.ศ. 2530
องค์กรพยาบาล
1. ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานการบริการการพยาบาลและผดุงครรภ์ จากสภาการพยาบาล เมื่อ 13 มิถุนายน 2552
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย
- เป็นคณะกรรมการบริหารและทีมนำสำคัญของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลจนได้รับรางวัลต่างๆมาโดยตลอดดังนี้
- รางวัลโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชก้าวหน้าดีเด่น ปี 2537 จากมูลนิธิโรงพายาบาลสมเด็จพระยุพราช
- รางวัลป้ายทอง การดำเนินกิจกรรม 5 ส. ดีเด่นจากสถาบัน HMPI ปี 2540
- ประกาศนียบัตรโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหาร ระดับดีมาก (Very Good) ประเภทโรงพยาบาลชุมชน จากกรมอนามัย พ.ศ. 2544-ปัจจุบัน
- รางวัล Healthy Work Place จากกรมอนามัยทุกปีจากปี 2549-2554
- ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานสากล ISO 9002 จากบริษัท BVQI ปี 2542
- ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ HA และ HPH จาก สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลปี 2548
- รางวัลภูมิทัศน์ดีเด่น จากมูลนิธิโรงพายาบาลสมเด็จพระยุพราช ปี 2550
- ได้รับการรับรอง Reaccreditation ระบบ HA และ HPH จาก สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ปี 2551
- รางวัล HUMANIZE HEALTH CARE ระดับโรงพยาบาลจาก สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ปี 2553
- รางวัล HEALING ENVIROMENT ทั่วทั้งองค์กรจากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ปี 2553
8. ประวัติการปฏิบัติงาน
8.1 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 3 สถานที่งาน ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2525ถึง พ.ศ. 2528
8.2 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 4สถานที่ ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2528ถึง พ.ศ. 2532
8.3 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 5สถานที่ ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2532ถึง พ.ศ. 2534
8.4 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 6สถานที่ กลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2534ถึง พ.ศ. 2540
8.5 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 7สถานที่ กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2540ถึง พ.ศ. 2544
8.6 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ 7วช.(ด้านการพยาบาล)สถานที่ กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2534ถึง พ.ศ. 2551
8.7 ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการพิเศษ(ด้านการพยาบาล)สถานที่ กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2551ถึง ปัจจุบัน
9. ปัจจุบันปฏิบัติงานในตำแหน่งสายงาน พยาบาลวิชาชีพ ตำแหน่งบริหาร หัวหน้าพยาบาล สถานที่ปฏิบัติงานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเลย พ.ศ. 2541ถึง ปัจจุบัน มีหน้าที่ความรับผิดชอบ (โดยย่อ) ดังนี้
9.1 หัวหน้าพยาบาล
- งานบริหารการพยาบาล รับผิดชอบด้านบริหาร บริการ วิชาการ และการพัฒนาคุณภาพบริการในงานต่าง ๆ 12 งานคือ งานผู้ป่วยนอก งานอุบัติเหตุฉุกเฉิน งานห้องผ่าตัด งานห้องคลอด งานหอผู้ป่วยใน 1 งานหอผู้ป่วยใน 2 งานซักฟอก งานหน่วยจ่ายกลาง งานบริการอาหาร งานให้การปรึกษา งานเคลื่อนย้ายและงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล
- การบริหารอัตรากำลัง นำหลักการใช้ Productity จากสำนักการพยาบาลมาใช้ในการจัดอัตรากำลังทางการพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำร่องในการใช้ Productity แก่หน่วยงานต่างๆของโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดี
9.2 การพยาบาลวิสัญญี เป็นการปฏิบัติการให้ยาระงับความรู้สึกแก่ผู้ป่วย โดยการวินิจฉัยปัญหาของผู้ป่วย เพื่อเลือกวิธีการและดำเนินการให้ยาระงับความรู้สึกได้อย่างเหมาะสมทุกภาวะของผู้ป่วยแต่ละรายภายใต้ระเบียบหรือกฎกระทรวงของกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้ป่วยในภาวะวิกฤตเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ให้การอภิบาลผู้ป่วยภาวะวิกฤตภายหลังการให้ยาระงับความรู้สึกรับผิดชอบในการให้บริการผู้ป่วยที่ต้องได้รับยาระงับความรู้สึก ทั้งในและนอกเวลาราชการตั้งแต่ พ.ศ.2531-2553
9.3 การเภสัชกรรมชุมชนบำบัด (PTC) มีหน้าที่ร่วมกันพิจารณาบัญชียาเข้า – ออกของโรงพยาบาล วัสดุ – ครุภัณฑ์ที่จำเป็น และการพิจารณาบัญชีรายชื่อลูกค้าที่ยอมรับได้
9.4 กรรมการประสานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คป.สอ.) รับผิดชอบพัฒนาศูนย์สุขภาพชุมชน (PCU) ในงาน 5 ส งาน IC และการสนับสนุนวัสดุ – อุปกรณ์การแพทย์ในรพ.สต.
9.5 บริการให้การปรึกษา ทำหน้าที่เป็นผู้ให้การปรึกษา วิทยากรให้การอบรมการให้การปรึกษา และเป็นผู้ให้การปรึกษา คลินิกการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ จนถึงปัจจุบัน
9.6 กรรมการมูลนิธิยุพราชสาขาด่านซ้าย ได้ร่วมกับกรรมการมูลนิธิสาขา และกรรมการมูลนิธิกลางในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลให้ได้มาตรฐาน และพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป
9.7 ผู้แทนสภาการพยาบาลประจำจังหวัด ทำให้หน้าที่ประสานงานกับชมรมพยาบาลจังหวัดเลย หัวหน้าพยาบาลโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วและทั่วถึง
9.8 คณะกรรมการประเมินผลงานวิชาการเพื่อการเลื่อนรับที่สูงขึ้น ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพระดับ ชำนาญการ ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลยปี 2549 – ปัจจุบัน
9.9 คณะกรรมการบริหารชมรมพยาบาลจังหวัดเลย ปี 2548 – ปัจจุบัน
9.10คณะกรรมการระดับภาค
- คณะกรรมการเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการพยาบาล เขต 10 ปี 2548 – ปัจจุบัน
9.11คณะกรรมการระดับประเทศ
- คณะทำงานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชของกองการพยาบาล ปี 2537 – 2538
- เป็นทีมพัฒนาศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขโรงพยาบาลสังกัดแขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาวชนลาว ปี 2548 - 2550
9.12วิทยากร
- วิทยากรการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นสูงในทารกแรกเกิดและผู้ใหญ่
- วิทยากรกิจกรรมคุณภาพ 5 ส.
- วิทยากร การให้การปรึกษาเรื่องโรคเอดส์และครอบครัว
- วิทยากร การใช้กระบวนการพยาบาลและการจำแนกผู้ป่วยในโรงพยาบาล
- วิทยากร การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ระดับนักเรียนที่ต้องการศึกษษในวิชาชีพพยาบาลและสาธารณสุข นักศึกษาต่อเนื่องพยาบาลศาสตร์บัณฑิตวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีอุดรธานี ขอนแก่น พิษณุโลก และบัณฑิตศึกษาสาขาการบริหารการพยาบาลคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- สนับสนุนให้พยาบาลได้ร่วมเป็นครูพี่เลี้ยงหลักในการฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาแพทย์รามาธิบดีชั้นปีที่2-ชั้นปีที่5
- เป็นที่ปรึกษาการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการบริการการพยาบาลและผดุงครรภ์และระบบคุณภาพ HAให้กับ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจอมบึง จังหวัดราชบุรี โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานีและโรงพยาบาลชุมชนอื่นๆ
ด้านอื่น ๆ
- กรรมการในงานประเพณีประจำปีในท้องถิ่นระดับอำเภอ เช่น กรรมการประกวดนางนพมาศประจำปี กรรมการประกวดขบวนแห่ผีตาโขน อำเภอด่านซ้าย
- คณะกรรมการประสานงานสมาคมแม่บ้านสาธารณสุขจังหวัดเลย ปี 2537 – ปัจจุบัน
คณะกรรมการชมรมแอโรบิคอำเภอด่านซ้าย ปี 2548 – ปัจจุบันฯลฯ
พี่เปรมศรี พยาบาลคุณภาพ จิตอาสา ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์
เริ่มการทำงานด้วยการเป็นพยาบาลที่ทำได้ทุกอย่างในโรงพยาบาลตั้งแต่พยาบาลผู้ป่วยใน พยาบาลผู้ป่วยนอก และเห็นความเดือนร้อนของชาวบ้านในการที่จะต้องเดินทางไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลจังหวัดเลย จึงได้ตั้งใจศึกษาต่อด้านวิสัญญีพยาบาลและทำงานช่วยทีมผ่าตัดของโรงพยาบาล จึงทำให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้ายมีชื่อเสียงด้านการผ่าตัดตลอดจนถึงปัจจุบัน ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่ตัวจังหวัด ซึ่งลำบากมาก ผู้ป่วยบางรายยอมตายที่ห้องฉุกเฉินเมื่อต้องถูกส่งตัวไปรักษาที่อื่น
นอกจากนี้พี่เปรมศรียังเป็นผู้นำการออกหน่วยรับบริจาคโลหิต พาทีมพยาบาลออกรับบริจาคโลหิตทั้งในและนอกเวลาราชการ คอยประสานงานกับหน่วยงานที่จะบริจาคโลหิตทำให้ระบบคลังเลือดของโรงพยาบาลมีความมั่นคง งานที่ได้กล่าวมามีลักษณะเป็นจิตอาสา เป็นเวทีที่ให้บุคลากรของโรงพยาบาลได้นำมามีส่วนร่วมมิได้มีค่าตอบแทน เป็นแนวคิดที่สวนกระแสในปัจจุบันที่ทำงานมุ่งแต่ค่าตอบแทนเพียงพอย่างเดียว ลักษณะงานดังกล่าวจึงเป็นการหล่อเลี้ยงคนในองค์กร เป็นงานที่มีคุณค่าและมีความหมายสำหรับชีวิตของบุคลากรทุกๆ คนในโรงพยาบาล ความที่เป็นคนท้องถิ่นของพี่เปรมศรี ยังได้เชื่อมโยงและชักชวนคนในองค์กรให้ทำกิจกรรมจิตอาสานอกโรงพยาบาลอีก จึงทำให้ชาวบ้านมีความศรัทธาต่อโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากพี่เปรมศรีเป็นกรรมการบริหารกองทุนต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก สิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดเป็นเพราะต้นกำเนิดชีวิตของพี่เปรมศรีมิได้เกิดมาเพื่อที่จะกอบโกยหรือหวังผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักแต่กลับมีความเอื้ออาทรและเห็นประโยชน์ต่อคนอื่นเหมือนกับบรรพบุรุษของคนด่านซ้ายในอดีตซึ่งเป็นเรื่องที่น่าศึกษาและเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง