วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรียนรู้จากคนนอก



อาจารย์ คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล จากหนังสือ หมอชาวบ้าน อาจารย์เป็นนักเขียนให้หมอชาวบ้านมาตั้งแต่พ.ศ. 2528 (โห) เดินทางมาสัมภาษณ์ นายแพทย์ ภักดี สืบนุการณ์ เกี่ยวกับกิจกรรม Book start และ เรื่อง จักรยาน โดยหัวข้อที่ว่า "การเรียนรู้จากวิถีคนใน"และนำสิ่งที่ได้รับรู้ข้อมูลมาทำกิจกรรมต่างๆเพื่อคนด่านซ้าย โดย ผอ. บอกว่ามันมาจากการพูดคุยกับผู้สูงอายุในท้องถิ่นที่เล่าถึงสมัยก่อนว่าด่านซ้ายเป็นอย่างไร โดยการแพทย์ที่ยังไม่ทันสมัยเหมือนยุคปัจจุบันและเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตคนในชนบทนำมาปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้าถึงชีวิตความเป็นอยู่ การทำมาหากินและโดยส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากการอ่านหนังสือ บทความที่เขียนจาก อาจารย์แพทย์หลายๆท่านจากหนังสือ หลายเล่ม รวมถึง หนังสือหมอชาวบ้านที่มาสัมภาษณ์ในวันนี้ด้วย จนได้รับรางวัลแพทย์ชนบทในปีนี้



โดย ผอ.ได้ให้ อาจารย์คมส์ธนนท์ ไปสัมภาษณ์ หลายคนในโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็น พี่หนุ่ย เยาวพา ที่ริเริ่มโครงการ Book start ที่ให้รายละเอียดตั้งแต่เริ่มต้น จนตอนนี้มีการตื่นตัวที่จะดูแลไปถึงกลุ่มเด็กที่มีปัญหาในการอ่านและพัฒนาการร่วมกับโรงเรียนในด่านซ้ายและโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ส่งนักศึกษาแพทย์ปีนี้ทั้ง 8 รุ่นมาเก็บข้อมูลทำวิจัยเกี่ยวกับเด็กและให้ข้อมูลการสรุปแก่ อาจารย์คมส์ธนนท์ เพื่อนำไปประกอบการเขียนด้วย หลังจากนั้นจึงเดินทางไปสัมภาษณ์บุคคลที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังจากได้มาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลุงติ่ง พนักงานครัว ทีขี่จักรยาน จากน้ำหนักตัวเกือบ 100 กิโล ที่หายไปเกือบครึ่งและไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียนเลยตั้งแต่รู้จักกับเจ้าสองล้อเมื่อไม่กีปีนี้เอง และอีกท่านหนึ่งคือ ลุงตุ๋ยหรือครูตุ๋ย แฟนป้าแน่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเวชปฏิบัติครอบครัว ที่เมื่อก่อนว่างไม่ได้เป็นต้องสังสรรค์กับเพื่อนฝูงทุกเย็น แต่หลังจากเริ่มขี่จักรยานกิจกรรม "ดื่มเพื่อความสุข"(ทุกข์ทีหลัง) ก็ลดหายไปโดยมีความแข็งแกร่งของร่ายกายและจิตใจเข้ามาแทนที่พร้อมกับความภูมิใจของครอบครัวโดยเฉพาะลูกสาว (น้องเนย) ที่ชื่นชมในตัวคุณพ่อมากๆ ลุงตุ๋ยบอกว่ามันเปลี่ยนแปลงหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ กาย ใจ และเงิน ที่แทบจะไม่เคยมีเก็บ เนื่องจากหมดไปกับขวดแก้วหลายยี่ห้อครั้งละหลายบาทเลยทีเดียวรวมถึง อุ้ม เจ้าของร้าน มอเตอร์ไซค์ในด่านซ้ายที่เมื่อก่อนเป็นทั้งนักแข่งรถวิบากและนักดื่มตัวยงที่หันมาขี่จักรยานจนได้รับการยอมรับในการขับขี่ที่พิสูจน์ได้จากถ้วยรางวัลภายในบ้านจนแทบไม่มีที่จะเก็บ อุ้มบอกว่าประหยัดไปเยอะ ถึงแม้จะดื่มอยู่บ้างแต่ไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากต้องเอาเวลาไปซ้อมเพื่อแข่งขันในอีกหลายสนาม และที่ได้รับกลับมาคือสุขภาพดีๆ และจะขี่จนกว่าไม่มีแรงปั่นเลยละกัน พร้อมกับนำจักรยานคันละแสนกว่าบาทคู่ใจมาให้ถ่ายภาพเนื่องจากอาจารย์นักเขียนบอกว่าไม่ถ่ายไม่ได้แล้ว (คันละเป็นแสน)
ช่วงเย็นอาจารย์คมส์ธนนท์ได้ไปสัมภาษณ์อีกครอบครัวหนึ่งที่ใช้หนังสือในการฝึกพัฒนาการให้กับลูกสาวตั้งแต่ยังคลานต้วมเตี้ยมจนเดี๋ยวนี้อยู่ชั้นอนุบาลแล้ว คุณแม่ของน้องบอกว่าลูกสาวมีสติปัญญาที่ดีมากกว่าเด็กในวัยเดียวกันและกล้าแสดงออกจนเป็นที่รักและเอ็นดูของหลายคนที่ได้เห็นจน คุณปู่ คุณย่า ปลื้มใจเอามากๆกับหลานคนนี้ รวมถึงลูกสาวคนโตอีกคนหนึ่งด้วย
จากการที่ได้เห็นการทำงานตลอดจนพูดคุยกับอาจารย์คมส์ธนนท์ อาจารย์บอกว่าเราต้องเตรียมข้อมูลในการออกไปทำงานในแต่ละครั้งโดยศึกษาเอาจากสื่อที่ออกมา เท่าที่ผมสังเกตุ อาจารย์ให้เกียรติในทุกคำตอบและจินตนาการให้เห็นภาพ สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากอาจารย์คมส์ธนนท์ คือ เราต้องเป็นนักฟังที่ดีและมีความ กระตือลือล้น สนใจ ในทุกคำตอบ โดยใช้ดวงตาแสดงความชื่นชมและอยากรู้ในสิ่งที่เขาพูดออกมาอย่างตั้งใจฟัง ขอบคุณครับอาจารย์

เครื่องมือนักเขียน (นักสัมภาษณ์)
  1. กล้องถ่ายภาพ
  2. เครื่องอัดเสียง 2 ตัว (กันเสีย 1 ตัว)
  3. สมุดจดบันทึก
  4. ปากกา
  5. ความอยากรู้อยากเห็น (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวครับ)
จบข่าว

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11 สิงหาคม 2554 เวลา 05:43

    ได้รับรู้เรื่องราวดีๆแบบนี้ แล้วรู้สึกอบอุ่นใจ ที่ได้อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดีๆ เช่นนี้ ขอให้ความดีทั้งมวลส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคน มีความสุขสดชื่นทุกๆวัน

    ตอบลบ
  2. เก่งมากค่ะ ชาวด่านซ้าย ชื่นชม มานาน ไม่เคยผิดหวัีงเลย

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ2 กันยายน 2554 เวลา 20:52

    ชื่นชมในบทความและหลายชีวิตในบทความของอาจารย์ค่ะ

    ตอบลบ