วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ค่ายยุพราชสู่ชุมชน ปี54 บ้านแก่วตาว ตอน 2

ช่วงบ่ายกิจกรรมเริ่มขึ้นโดยทีมงานส่วนหนึ่ง แยกเด็ก ป.1-ป.3 ออกมาทำกิจกรรม เพาะกล้าตาโขนน้อย โดยมีเกมส์สนุกๆและหนังสือนิทานให้เด็กๆอ่านด้วย ต้องบอกว่าสนุกกันมากมายวัดได้จากเสียงหัวเราะ ที่ดังขึ้นเรื่อยๆซึ่งนำทีมโดย พี่ป๋อมแป๋ม พี่น้ำหวาน แหม สนุกสนานกันดีจริงๆ (ให้ข้อยเล่นนำเด่)


ส่วนน้องๆ ตั้งแต่ป.4 ขึ้นไป ทางทีมงานอีกส่วนหนึ่งก็เอามาเรียนรู้เกี่ยวกับการนวดแผนไทย นำทีมโดย พี่ไพโรจน์ (นักการแพทย์แผนไทย) พี่นุช พี่พิมพร พี่ชิต พี่นก พี่ไอซ์ และ กลุ่ม "ต้นกล้าภูมิปัญญาไทย"ซึ่งพี่ไพโรจน์บ่มเพาะนักนวดเยาวชนให้เรียนรู้การนวดแผนไทยและส่งเสริมให้เรียนรู้เกี่ยวกับสมุนไพรพื้นบ้าน จนตอนนี้ชำนาญในระดับหนึ่งเลยทีเดียวแต่พี่ๆของเราก็ไม่เบาเพราะก่อนมาก็ได้เรียนรู้เบื้องต้นกับพี่ไพโรจน์มาแล้ว โดยพี่น้องบ้านแก่วตาวมาร่วมเรียนรู้การนวดไปพร้อมกันโดยมีพี่ๆเป็นพี่เลี้ยงให้แบบถึงเนื้อถึงตัวกันเลยทีเดียว อาชีพเกษตรกรต้องบอกว่าหนักเอาการเลยทีเดียวเพราะส่วนมากที่ไปรพ. จะปวดหลัง ปวดเอว กันซะส่วนใหญ่ พี่น้องบอกว่าสบายเลยที่นี้นวดให้กันเองได้และ ลูกนวดให้พ่อ พ่อนวดให้แม่ เพื่อนนวดให้เพื่อน พี่นวดให้น้องและอื่นๆอีกมากมาย แหมๆนวดกันใหญ่เชียวนะ
และทีมงานอีกส่วนหนึ่งยังไปร่วมกับชาวบ้านช่วยกันก่ออิฐถือปูนสร้างกำแพงโรงอาหารให้กับเด็กนักเรียนพร้อมทั้งยังมีโต๊ะและเก้าอี้ที่พี่บาสออกแบบไว้ให้เด็กได้รับประทานอาหารอีกด้วย ตัวใหญ่มาก 2 ตัว เด็กเห็นแล้วยิ้มกันแก้มปิ พรุ่งนี้หนูๆจะได้นั่งโต๊ะกินข้าวที่ทำจากเหล็กใช้กันเป็นปีไม่มีทรุดแน่นอน หันมาดูทางทีมนวดเรียกว่าสอนกันทุกกระบวนท่าจริงๆเพื่อพี่น้องบ้านแก่วตาวแต่ยังๆไม่พอครับ ทางพี่ไพโรจน์ได้
เตรียมอปกรณ์ที่ใช้เจาะเลือดเพื่อตรวจสอบสารพิษในร่างกายเนื่องจากพี่น้องในชุมชนใช้สารเคมีในเกษตรกรรม (ทุกบ้าน) โดยสามารถที่จะรู้ผลภายในวันนั้นเลยที่เดียว พี่น้องส่วนใหญ่ที่เจาะจะเป็นวัยกลางคนจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่ เนื่องจากวัยแรงงานยังไม่กลับจากไร่ รวมที่เจาะวันนี้ 88 คนครับ และหน้าใจหายจริงกับผลที่ออกมา ปลอดภัย 6 คน ไม่ปลอดภัยและมีความเสี่ยง 82 คน คืนนี้เราเลยต้องมีการจัดหนักในส่วนของการให้ความรู้และต้องให้พี่น้องได้ตระหนักถึงโรคที่จะเกิดจากการใช้สารเคมีในการเกษตรซะแล้วครับ
หลังจากกินข้าวแลง (ข้าวเย็น) กันเสร็จเรียบร้อย หมอบอย และ พี่ไกรลาศ ฝ่ายเวชปฎิบัติครอบครัวและกรรมการสิ่งแวดล้อมที่ตามมาสมทบในช่วงเย็น ก็เริ่มพูดคุยในส่วนของปัญหาในชุมชนที่คณะสำรวจได้ลงมาเก็บข้อมูลในพื้นที่ 2 ครั้ง ก่อนมาออกกิจกรรม มีเรื่องของขยะและสารเคมี ที่ต้องบอกว่าพี่น้องในชุมชนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคในอีกไม่กี่ 10 ปีข้างหน้าแน่นอนถ้าไม่ป้องกันและดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ มีการเชิญ ตัวแทน อบต. ครู ผู้ใหญ่บ้าน มารับฟังปัญหาและให้พี่น้องช่วยกันออกความเห็นร่วมกัน หลายคนที่ได้รู้ผลการเจาะเลือดที่ผ่านมาในช่วงเย็น มีความวิตกกันอย่างเห็นได้ชัด โดยมีพี่ไกรลาศและพี่นก ทำหน้าที่พิธีกรอย่างเข้มแข็ง หมอบอยคอยช่วยเสริมและปลุกใจชาวบ้านให้เห็นถึงสิ่งที่ชุมชนต้องช่วยกันจนเวลาล่วงเลยมาพอสมควรจึงแยกย้ายกันไป ส่วนทีมน้องใหม่มีการสรุปกิจกรรมและถึงเวลาพักผ่อนซักที อิอิ หาวแล้วก็หาว กัน แบบเพลียๆครับ
ช่วงเช้าของวันที่สอง 29 ส.ค. 54 หลังจากที่เราเคารพธงชาติและสวดมนต์ไหว้พระกันเป็นที่เรียบร้อย (บรรยากาศเก่าๆดีจัง) กิจกรรมนักสืบสบายน้ำน้อยก็เริ่มขึ้นโดยเราแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 2 ทีม โดยมีพี่เลี้ยงในทีมและคุณครู ร.ร.บ้านแก่วตาวเข้าร่วมดูแลเด็กและเรียนรู้ร่วมกัน โดยพี่ไกรลาศ พาเด็กๆไปสำรวจสายน้ำในหมู่บ้าน ส่วนพี่เปียสำรวจอยู่ที่โรงเรียน เพื่อดูสัตว์เล็กน้ำจืดที่อาศัยอยู่ และนำเป็นผลลัพธ์เพื่อดูว่าน้ำในชุมชนอยู่ในระดับที่น่าพอใจหรือไม่ เด็กๆเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างสนุกสนานเนื่องจากเพิ่งมีโอกาสได้ทำครั้งแรกทำเอาพี่สนุกสนานไปตามๆกัน อธิบายขั้นตอนและวิธีทำต่างๆ สำคัญก็คือ สัตว์ที่ขึ้นมาเราต้องเอาเขากลับสู่น้ำอย่างปลอดภัยนะครับ สอดแทรกเรื่องราวต่างๆได้อีกมากมายเลยครับกิจกรรมนี้ เอ้าส่องกันเข้าไป
อีกกิจกรรมที่ควบคู่ไปกับนักสืบสายน้ำก็คือ หนังสือเล่มแรกของหนู หรือ bookstart ซึ่งทางทีมได้เชิญแม่เด็กตัวเล็ก ตัวน้อยมาทำความเข้าใจกับกิจกรรมที่เป็นการปลูกผังให้เด็กรักการอ่านตั้งแต่วัยเยาว์และฝึกพัฒนาการโดยมีคุณแม่เป็นคนอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟัง โดยเด็กที่ยังเล็กจะเป็นหนังสือภาพสีเรียกความสนใจของเด็กๆได้ดีทีเดียว เด็กๆจะได้คุ้นเคยกับหนังสือไงครับ อิอิ พร้อมกันนี้ยังมอบหนังสือให้คุณแม่แต่ละท่านไปไว้อ่านที่บ้านด้วยนะครับ น่ารักทั้งคนสอนคนเอาไปอ่านเลย อิอิ


กิจกรรมนักสืบสายน้ำน้อยดำเนินไปพร้อมกับหนังสือเล่มแรกของหนู แต่ในส่วนของทีมงานอีกกลุ่มหนึ่งก็กำลังขมักเขม่นร่วมกับชาวบ้านในชุมชนช่วยกันขนดินบ้าง ขุดดินบ้าง และก่ออิฐเพื่อทำแปลงผักให้กับโรงเรียนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในโครงการอาหารกลางวัน จนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงกิจกรรมก็พักชั่วขณะเพื่อกินข้าวเติมพลังให้กับพี่ๆทีมงานที่เรียกว่าหนักเอาเบาสู้กันจริงๆ โดยในช่วงบ่ายเรายังต้องมีการจัดสถานที่เพื่อรองรับพี่น้องที่จะมาร่วมกิจกรรมกลางคืนและมีสรุปกิจกรรมนักสืบสายน้ำในช่วงบ่ายของวันที่สอง
ติดตามตอนสุดท้ายนะครับ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายสำหรับการไปออกค่ายน้องใหม่ปีนี้ พบกันอีกทีตอนสุดท้ายครับผม (กินแล้วก็นอนพักผ่อนกายา อิอิ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น