วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พร่ำเพื่อ




      วันนี้ผมไปเบิกเลือดที่กาชาดชลบุรีและฝ่ากระแสรถติดอย่างบ้าครั่ง นี่แหละครับวันแรงงาน รถติดไม่เฉพาะแต่ชลบุรีที่ฉะเชิงเทราก็ติดมากมาย ตั้งแต่ช่วงเช้าเนื่องจากผู้ศรัทธาในองค์หลวงพ่อพุทธโสธร
 เฉพาะไม่ต้องเทศกาลหรือวันหยุดยาวก็ติดอยู่แล้ว นี่แหละครับความศรัทธา
     ว่ากันต่อครับ หลังจากที่ผมหลุดออกมาจากตัวเมืองชลบุรีได้ และมุ่งหน้าขึ้นถนน มอเตอร์เวย์โดยใช้ความเร็วพอสมควร (130-140 กม/ชม) เนื่องจากกลัวว่าน้ำแข็งที่แช่เลือดจะละลายไปซะก่อนจะถึง รพ รถหนาแน่นพอสมควรเลยต้องใช้ฝีมือเข้าแลก (ไม่ใช่ไม่กลัวนะครับแต่มันจำเป็น) ออกซ้ายออกขวาตามคอนเซ็บที่วางไว้ว่าคนขับรถ รพ. ทุกคนต้องวัดใจและใจถึงเอามากๆโดยมีเสียงด่าไล่หลังที่เราไม่ได้ยินเพราะอาจจะไม่ได้ด่าเราแต่บุพพการีเต็มๆ (ขอโทษพ่อกับแม่นะ หนูอยากให้เขาด่าหนูแทนอ่ะหนูจ่ะไม่โกธรเขาหรอก)
    ป้ายหน้าลงฉะเชิงเทรา เอาวะใกล้ถึงและ ขับตามรถพ่วงไปเรื่อยๆ อ้าวไรเนี่ยรถติดไม่เลิกอีกหรือ เบี่ยงออกขวาชะโงกหน้าไปดู มีรถจอดบังไม่เห็นว่าเขาเป็นไรกันเห็นคนนั่งอยู่ข้างทาง 2-3 คน ชักยังไง ขยับไปอีกหน่อย อ้าวอุบัติเหตุนี่นา สัญชาติกู้ชีพถีบตัวเลยเรา เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ผ่าหมากไฟกระพริบหลัง จัดเต็ม เบี่ยงออกขวาขวางถนน มีคนเจ็บประมาณ 5-6 คน รถกู้ภัยยังมาไม่ถึงแสดงว่าเพิ่งเกิด บอกพลเมืองดีว่ามีคนเจ็บหนักไหม เคลื่อนย้ายได้ไหมครับ เอาขึ้นรถผมเลยผมช่วยนำส่ง
     แปบนึงชายร่างใหญ่ถูกอุ้มโดยพลเมืองดี 3-4 คน เลือดอาบเต็มหน้า มีบาดแผลที่ท้ายทอยด้วย " พี่ครับ เอาขึ้นมาเลย" หลังจากพาชายคนนั้นขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ยังมีหญิงอีกคนหนึ่ง มีอาการอิดโรยและบาดแผลตามตัวเล็กน้อย ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และหญิงอีก 1 คน ทั้งหมดรวมเป็น 3 ชายคนเจ็บบอกว่าผมหายใจไม่ค่อยออกครับพี่ ผมเลยปิดท้ายรถออกตัวไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด นั่นคือ
รพ บางปะกงปิยะเวช บางวัว
     รถคันนี้ไม่มีเสียงไซเรนมีแต่ไฟฉุกเฉิน ทำให้ผมต้องบีบแตรไปตลอดทางและด้วยถนนที่ขรุขระพอสมควร รถก็เยอะตามเคย ผมต้องขับคร่อมเส้นกลางตลอดเนื่องจากเป็นถนนสองเลน ยัดเกียร์อย่างกับเฉินหลงในหนังเรื่องหนึ่ง ห้อตะบึ่งไปตามเส้นทางที่ไม่ค่อยมีแสงสว่างพอเท่าไหร่ ช่วงกลางของถนนเส้นนี้มีตลาดนัด คนจับจ่า่ยซื้อของมากมายผมต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ยังขับอยู่คร่อมเส้นกลางเหมือนเดิม บีบแตรจนคนตกใจ หลบกันเป็นแถว เกือบชนฟอร์จูนเนอร์และและเบียดอีซูซุ (ขอโทษครับพี่มันรีบจริงๆ) ตัดออกถนนบางนา-ตราด จนได้ รพ อยู่ทางขวามือต้องวิ่งสวนทางเขาอีก เอาวะเป็นไงเป็นกัน เรียกประกันเคลีย ผมหนี 55
      เลี้ยวขวาเข้ารพ.จอดหน้าห้องฉุกเฉิน เสียงดังคาราบาว (แอ็ด) พนักงานเปลรีบเข็นรถนอนมารับและเคลื่อนย้ายเข้าห้องฉุกเฉินอย่างโกลาหล   ส่วนผมหมดภาระกิจ ยืนหอบเหนื่อยอยู่ข้างรถพักนึง กู้ภัยที่ไปถึงที่เกิดเหตุก่อนผมออกตัวมาแปบเดียวก็เอาคนเจ็บมาถึง รพ. หลังจากยืนคุยกับน้องกู้ภัยสัพักจึงได้รู้ว่าคนเจ็บเป็นคนเขมรที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย (วันแรงงานไทยก้าวไกลถึงเขมร) เดินทางมาเที่ยววันทะเลวันหยุดเช่นกัน "ขอบคุณมากพี่" "ไม่เป็นไรครับเผอิญผมไปเอาเลือดที่กาชาดชลบุรีผ่านมาเห็นพอดี" (ไทยช่วยเขมรครับน้อง) ผมเดินไปล้างมือที่เปรอะเลือดตอนยกศีรษะชายคนนั้นเคลื่อนย้ายลงจากรถพยาบาล เสื้อผมเปื้อนเลือดนิดหน่อย ไม่เป็นไรจ้างเขาซักอยู่แล้ว
     เหนื่อยครับกับภาวะที่เร่งรีบจริงในการศึกครั้งนี้ แต่ใจพองโต สารภาพครับ ผมเคยดูถูกตัวเองว่าเป็นคนขับรถ"ต่ำต้อย" คนนึงเท่านั้น แต่วันนี้ ผมกลายเป็นคนขับรถที่ไม่ใหญ่แต่ตัวแต่หัวใจใหญ่ขึ้นมาอีกเป็นกองเลยครับ ดีใจหว่ะทำงานโรงพยาบาลได้ตังส์ได้บุญด้วยเว้ยเฮ้ย
จบข่าว 01/05/55
ดีเจ เสนาหอย รายงาน